บทที่ 1 การบริหารองค์กรดิจิตอล
1.1 ทำไมต้องใช้ระบบสารสนเทศ
โลก ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจ ได้มีการนำระบบสารสนเทศ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายระหว่างประเทศเข้ามาประสานการทำงานร่วมกับการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของสภาพแวดล้อมการแข่งขันในการดำเนิน ธุรกิจกระแสโลกาภิวัฒน์ ที่ได้เปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจ คือ ในประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ๆ มีการใช้ความรู้มากขึ้น ความรู้และข่าวสารกลายเป็นรากฐานที่สำคัญของผลิตภัณฑ์และการบริการใหม่ๆ และมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร คือองค์กรระบบใหม่จะลดลำดับชั้นของผู้บริหารให้น้อยลง เพื่อกระจายความรับผิดชอบการสั่งงานไปตามส่วนต่างๆได้มากขึ้น มีการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและกำหนดกลุ่มรับผิดชอบที่เหมาะสมกับ สถานการณ์ในขณะนั้น ปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
องค์กรดิจิตอลแตกต่างจากองค์กรแบบเดิมคือ มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้อย่างกว้างขวางเรียกว่าเป็นเครื่องมือ หลักในการบริหารงานเลยก็ว่าได้
ระบบสารสนเทศ (Information System) หมายถึง กลุ่มของระบบงานที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์หรือตัวอุปกรณ์ และซอฟแวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่รวบรวม ประมวลผล จัดเก็บ และแจกจ่ายข้อมูลข่าวสารเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและการควบคุมภายในองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยบุคลากรในองค์กรนั้นในการประสานงาน การวิเคราะห์ปัญหา การสร้างแบบจำลองวัตถุที่มีความซับซ้อน และการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
กระบวนการทำงานของระบบสารสนเทศประกอบด้วย
- การนำเข้าข้อมูล (Input) จะทำการจัดการรวบรวมข้อมูลจากส่วนต่างๆขององค์กร หรือจากภายนอกองค์กร นำเข้ามาสู่ระบบ
- การประมวลผล (Processing) จะทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนข้อมูลที่นำเข้ามาให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายต่อองค์กร คือสามารถนำไปใช้งานได้
- การ นำเสนอผลลัพธ์ (Output) จะจัดนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผ่านการประมวลผลแล้ว ไปนำเสนอให้แก่ผู้ใช้ตามความเหมาะสม คือ ส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว
โลก ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจ ได้มีการนำระบบสารสนเทศ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายระหว่างประเทศเข้ามาประสานการทำงานร่วมกับการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของสภาพแวดล้อมการแข่งขันในการดำเนิน ธุรกิจกระแสโลกาภิวัฒน์ ที่ได้เปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจ คือ ในประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ๆ มีการใช้ความรู้มากขึ้น ความรู้และข่าวสารกลายเป็นรากฐานที่สำคัญของผลิตภัณฑ์และการบริการใหม่ๆ และมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร คือองค์กรระบบใหม่จะลดลำดับชั้นของผู้บริหารให้น้อยลง เพื่อกระจายความรับผิดชอบการสั่งงานไปตามส่วนต่างๆได้มากขึ้น มีการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและกำหนดกลุ่มรับผิดชอบที่เหมาะสมกับ สถานการณ์ในขณะนั้น ปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
องค์กรดิจิตอลแตกต่างจากองค์กรแบบเดิมคือ มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้อย่างกว้างขวางเรียกว่าเป็นเครื่องมือ หลักในการบริหารงานเลยก็ว่าได้
ระบบสารสนเทศ (Information System) หมายถึง กลุ่มของระบบงานที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์หรือตัวอุปกรณ์ และซอฟแวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่รวบรวม ประมวลผล จัดเก็บ และแจกจ่ายข้อมูลข่าวสารเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและการควบคุมภายในองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยบุคลากรในองค์กรนั้นในการประสานงาน การวิเคราะห์ปัญหา การสร้างแบบจำลองวัตถุที่มีความซับซ้อน และการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
กระบวนการทำงานของระบบสารสนเทศประกอบด้วย
- การนำเข้าข้อมูล (Input) จะทำการจัดการรวบรวมข้อมูลจากส่วนต่างๆขององค์กร หรือจากภายนอกองค์กร นำเข้ามาสู่ระบบ
- การประมวลผล (Processing) จะทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนข้อมูลที่นำเข้ามาให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายต่อองค์กร คือสามารถนำไปใช้งานได้
- การ นำเสนอผลลัพธ์ (Output) จะจัดนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผ่านการประมวลผลแล้ว ไปนำเสนอให้แก่ผู้ใช้ตามความเหมาะสม คือ ส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว
1-1 โครงสร้างของระบบสารสนเทศ
ระบบ สารสนเทศในมุมมองทางธุรกิจ คือ กระบวนการแก้ไขปัญหาที่มีการจัดการโครงสร้างอย่างดี สอดคล้องตามเทคโนโลยีข่าวสารที่นำมาใช้ เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทั้งหลายจากสิ่งแวดล้อมขององค์กรใช้ในการการ บริหารและด้านเทคโนโลยีข่าวสาร
1.2 แนวทางการใช้ระบบสารสนเทศในยุคปัจจุบัน
แนวทางการการนำระบบสารสนเทศมาปรับใช้ในการบริหารองค์กร ในปัจจุบันได้มีการนำระบบสารสนเทศมาใช้ในการกำหนดนโยบายและแผนงานประจำวัน ช่วยให้องค์กรมีความคล่องตัวในการดำเนินงาน ช่วยลดชั้นในการบริหารงาน ทำให้พนักงานชั้นล่างมีอำนาจในการตัดสินใจเพิ่มมากขึ้น และการที่จะทำให้ระบบสารสนเทศเกิดประโยชน์สูงสุดจำเป็นต้องโครงสร้างของระบบ ที่ดีด้วย
1.3 บทบาทใหม่ของระบบสารสนเทศภายในองค์กร
ด้วย ขอบเขตการใช้งานที่กว้างกว่าเดิมของระบบสารสนเทศ ทำให้องค์กรมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับระบบสารสนเทศ ความซับซ้อนของกระบวนการทำงานและขอบเขตของการทำงานเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ ความสัมพันธ์ดังกล่าวมีมากยิ่งขึ้น
ระบบ สารสนเทศในมุมมองทางธุรกิจ คือ กระบวนการแก้ไขปัญหาที่มีการจัดการโครงสร้างอย่างดี สอดคล้องตามเทคโนโลยีข่าวสารที่นำมาใช้ เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทั้งหลายจากสิ่งแวดล้อมขององค์กรใช้ในการการ บริหารและด้านเทคโนโลยีข่าวสาร
1.2 แนวทางการใช้ระบบสารสนเทศในยุคปัจจุบัน
แนวทางการการนำระบบสารสนเทศมาปรับใช้ในการบริหารองค์กร ในปัจจุบันได้มีการนำระบบสารสนเทศมาใช้ในการกำหนดนโยบายและแผนงานประจำวัน ช่วยให้องค์กรมีความคล่องตัวในการดำเนินงาน ช่วยลดชั้นในการบริหารงาน ทำให้พนักงานชั้นล่างมีอำนาจในการตัดสินใจเพิ่มมากขึ้น และการที่จะทำให้ระบบสารสนเทศเกิดประโยชน์สูงสุดจำเป็นต้องโครงสร้างของระบบ ที่ดีด้วย
1.3 บทบาทใหม่ของระบบสารสนเทศภายในองค์กร
ด้วย ขอบเขตการใช้งานที่กว้างกว่าเดิมของระบบสารสนเทศ ทำให้องค์กรมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับระบบสารสนเทศ ความซับซ้อนของกระบวนการทำงานและขอบเขตของการทำงานเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ ความสัมพันธ์ดังกล่าวมีมากยิ่งขึ้น
1-2. ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับระบบสารสนเทศ
1-3. ขอบเขตการใช้งานระบบสารสนเทศที่กว้างขวางกว่าเดิม
วิวัฒนาการ ของระบบเครือข่ายและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นอีกผลหนึ่งที่ทำให้ระบบสารสนเทศมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น กล่าวคือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้เพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์หลายเครื่องให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันได้ กลายเป็นโครงสร้างที่เรียกว่า “ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์” (Computer Network) และยังมีระบบเครือข่ายที่มีขอบเขตการใช้งานอย่างกว้างขวางและเป็นที่รู้จัก มากที่สุดในโลกอย่าง “ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต” (The Internet)
ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้บริการที่มีประโยชน์มากอีกอย่างหนึ่ง เรียกว่า “โครงข่ายโลก” หรือ WWW (World Wide Web) เป็นระบบมาตรฐานสากลในการเก็บรักษา การค้นหา และการแสดงผลบนระบบเครือข่ายที่เชื่อมกันอยู่ทั่วโลก ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำได้ง่าย กลายเป็นวิธีการพื้นฐานสำหรับการเผยแพร่ข่าวสารในระบบสารสนเทศ
ทางเลือก ใหม่สำหรับการออกแบบโครงสร้าง องค์กร ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย ทำให้เกิดองค์กรในรูปแบบใหม่ ดังนี้
- การลดจำนวนระดับผู้บริหาร
ทำให้มีชั้นน้อยลงกว่าเดิม ในขณะเดียวกันก็เพิ่มอำนาจในการตัดสินใจแก้ปัญหาให้แก่ผู้บริหารระดับล่าง ผู้บริหารจึงมีอำนาจมากขึ้นกว่าในอดีตและมีความรับผิดชอบสูงขึ้น การทำงานไม่จำกัดอยู่ที่จำนวนชั่วโมงการทำงานและไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในห้อง ทำงานผู้บริหารอีกต่อไป ทั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยีข่าวสารที่ทำให้พนักงานรับทราบข่าวสารที่จำเป็นได้ทันทีทันใด ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยังช่วยพนักงานสามารถทำงานร่วมกันและแลกเปลี่ยน ข่าวสารกันได้อย่างสะดวก ความเปลี่ยนแปลงนี้จึงทำให้ผู้บริหารสามารถขยายขอบเขตความรับผิดชอบได้กว้าง กว่าเดิมและสามารถควบคุมได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
- การแยกสถานที่ทำงานออกจากงานที่ทำ
ด้วยเทคโนโลยีข่าวสารในปัจจุบัน อย่าง อีเมล์ ระบบอินเทอร์เน็ต และการประชุมวีดีทัศน์ ช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ร่วมงานหรือผู้สั่งงานสามารถทำได้โดยง่าย และไม่จำกัดสถานที่ และทำให้ส่วนประกอบบางอย่างที่ไม่จำเป็นถูกตัดออกสามารถทดแทนได้โดยการ เชื่อมต่อระบบสารสนเทศ อีกทั้งยังมีระบบการสื่อสารข้อมูลที่ทำให้การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเป็นไป ได้ง่ายโดยไม่ต้องเดินทางไปด้วยตนเอง สถานที่ทำงานจึงมีขนาดเล็กลงเนื่องจากไม่มีความจำเป็นที่ต้องจัดพื้นที่ สำหรับโต๊ะพนักงานอีกต่อไป
- การเพิ่มความคล่องตัวขององค์กร
องค์กรสามารถนำเทคโนโลยีข่าวสารไปใช้เพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติในหลาย ทางซึ่งจะเกิดความยึดหยุ่นและสามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ ตลอดเวลา ช่วยให้องค์กรขนาดเล็กสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ องค์กรใหญ่ ในขณะที่ช่วยให้องค์กรใหญ่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีอย่างที่ องค์กรขนาดเล็กทำได้
- วิธีการบริหารองค์กรที่เปลี่ยนแปลงไป
ระบบสารสนเทศช่วยให้ผู้บริหารมีความสามารถในการบริหารองค์กรเพิ่มขึ้น ผู้บริหารสามารถมองเห็นรายละเอียดและประสิทธิภาพของการทำงานระบบใดๆ ภายในองค์กรได้ตลอดเวลา องค์กรหลายแห่งได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในกระบวนการวางแผนความต้อง การทรัพยากรขององค์กร เรียกว่า Enterprise Resource Planning (ERP) ซึ่งเป็นระบบการบริหารงานทางธุรกิจที่รวมการวางแผนการดำเนินการ แผนการผลิต แผนการขายและแผนการเงิน เข้าด้วยกันเพื่อให้ระบบเหล่านี้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การกำหนดขอบเขตการดำเนินงานใหม่
ระบบ สารสนเทศที่มีการเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายช่วยเพิ่มความสามารถในการแลก เปลี่ยนข้อมูล เช่น ใบรายการสั่งซื้อสินค้า หรือรายการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์กร ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อสินค้าและบริการจากภายนอกลงได้มาก องค์กรต่างๆสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เรียกว่าเป็นการกำหนดขอบเขตการดำเนินงานในรูปแบบใหม่
1.4 เรียนรู้การนำระบบสารสนเทศมาใช้งาน: โอกาสใหม่กับเทคโนโลยี
ระบบสารสนเทศทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ ทั้งระดับบุคคลและระดับองค์กรซึ่งในขณะเดียวกันก็สร้างปัญหาใหม่ขึ้นสำหรับ ผู้บริหารด้วย สำหรับความท้าทายของระบบสารสนเทศในแง่ของผู้บริหาร มีดังนี้
1. ความท้าทายในแนวทางการบริหารธุรกิจ : การนำสารสนเทศเข้ามาใช้ในการบริหารองค์กรให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน และมีประสิทธิภาพ
2. ความท้าทายในยุคโลกาภิวัฒน์ : องค์กรมีความเข้าใจในวิธีการดำเนินธุรกิจและความต้องการสำหรับสิ่งแวดล้อมใน ระบบเศรษฐกิจโลกอย่างไร
3. ความท้าทายในด้านโครงสร้างระบบสารสนเทศ : องค์กรจะมีวิธีการอย่างไรในการพัฒนาโครงสร้างระบบสารสนเทศสำหรับโครงข่าย ข่าวสารภายในซึ่งจะต้องสนับสนุนวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ
4. ความ ท้าทายในการลงทุนด้านระบบสารสนเทศ : องค์กรจะมีวิธีการอย่างไรในการประเมินค่าในเชิงธุรกิจของระบบสารสนเทศที่ได้ ลงทุนสร้างขึ้นมาใช้งาน
5. ความทาทายในด้านความรับผิดชอบและการควบคุม : องค์กรจะสร้างระบบสารสนเทศขึ้นมาอย่างไรเพื่อให้บุคคลกรสามารถควบคุมและเข้า ใจระบบได้อย่าง
วิวัฒนาการ ของระบบเครือข่ายและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นอีกผลหนึ่งที่ทำให้ระบบสารสนเทศมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น กล่าวคือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้เพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์หลายเครื่องให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันได้ กลายเป็นโครงสร้างที่เรียกว่า “ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์” (Computer Network) และยังมีระบบเครือข่ายที่มีขอบเขตการใช้งานอย่างกว้างขวางและเป็นที่รู้จัก มากที่สุดในโลกอย่าง “ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต” (The Internet)
ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้บริการที่มีประโยชน์มากอีกอย่างหนึ่ง เรียกว่า “โครงข่ายโลก” หรือ WWW (World Wide Web) เป็นระบบมาตรฐานสากลในการเก็บรักษา การค้นหา และการแสดงผลบนระบบเครือข่ายที่เชื่อมกันอยู่ทั่วโลก ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำได้ง่าย กลายเป็นวิธีการพื้นฐานสำหรับการเผยแพร่ข่าวสารในระบบสารสนเทศ
ทางเลือก ใหม่สำหรับการออกแบบโครงสร้าง องค์กร ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย ทำให้เกิดองค์กรในรูปแบบใหม่ ดังนี้
- การลดจำนวนระดับผู้บริหาร
ทำให้มีชั้นน้อยลงกว่าเดิม ในขณะเดียวกันก็เพิ่มอำนาจในการตัดสินใจแก้ปัญหาให้แก่ผู้บริหารระดับล่าง ผู้บริหารจึงมีอำนาจมากขึ้นกว่าในอดีตและมีความรับผิดชอบสูงขึ้น การทำงานไม่จำกัดอยู่ที่จำนวนชั่วโมงการทำงานและไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในห้อง ทำงานผู้บริหารอีกต่อไป ทั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยีข่าวสารที่ทำให้พนักงานรับทราบข่าวสารที่จำเป็นได้ทันทีทันใด ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยังช่วยพนักงานสามารถทำงานร่วมกันและแลกเปลี่ยน ข่าวสารกันได้อย่างสะดวก ความเปลี่ยนแปลงนี้จึงทำให้ผู้บริหารสามารถขยายขอบเขตความรับผิดชอบได้กว้าง กว่าเดิมและสามารถควบคุมได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
- การแยกสถานที่ทำงานออกจากงานที่ทำ
ด้วยเทคโนโลยีข่าวสารในปัจจุบัน อย่าง อีเมล์ ระบบอินเทอร์เน็ต และการประชุมวีดีทัศน์ ช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ร่วมงานหรือผู้สั่งงานสามารถทำได้โดยง่าย และไม่จำกัดสถานที่ และทำให้ส่วนประกอบบางอย่างที่ไม่จำเป็นถูกตัดออกสามารถทดแทนได้โดยการ เชื่อมต่อระบบสารสนเทศ อีกทั้งยังมีระบบการสื่อสารข้อมูลที่ทำให้การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเป็นไป ได้ง่ายโดยไม่ต้องเดินทางไปด้วยตนเอง สถานที่ทำงานจึงมีขนาดเล็กลงเนื่องจากไม่มีความจำเป็นที่ต้องจัดพื้นที่ สำหรับโต๊ะพนักงานอีกต่อไป
- การเพิ่มความคล่องตัวขององค์กร
องค์กรสามารถนำเทคโนโลยีข่าวสารไปใช้เพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติในหลาย ทางซึ่งจะเกิดความยึดหยุ่นและสามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ ตลอดเวลา ช่วยให้องค์กรขนาดเล็กสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ องค์กรใหญ่ ในขณะที่ช่วยให้องค์กรใหญ่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีอย่างที่ องค์กรขนาดเล็กทำได้
- วิธีการบริหารองค์กรที่เปลี่ยนแปลงไป
ระบบสารสนเทศช่วยให้ผู้บริหารมีความสามารถในการบริหารองค์กรเพิ่มขึ้น ผู้บริหารสามารถมองเห็นรายละเอียดและประสิทธิภาพของการทำงานระบบใดๆ ภายในองค์กรได้ตลอดเวลา องค์กรหลายแห่งได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในกระบวนการวางแผนความต้อง การทรัพยากรขององค์กร เรียกว่า Enterprise Resource Planning (ERP) ซึ่งเป็นระบบการบริหารงานทางธุรกิจที่รวมการวางแผนการดำเนินการ แผนการผลิต แผนการขายและแผนการเงิน เข้าด้วยกันเพื่อให้ระบบเหล่านี้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การกำหนดขอบเขตการดำเนินงานใหม่
ระบบ สารสนเทศที่มีการเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายช่วยเพิ่มความสามารถในการแลก เปลี่ยนข้อมูล เช่น ใบรายการสั่งซื้อสินค้า หรือรายการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์กร ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อสินค้าและบริการจากภายนอกลงได้มาก องค์กรต่างๆสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เรียกว่าเป็นการกำหนดขอบเขตการดำเนินงานในรูปแบบใหม่
1.4 เรียนรู้การนำระบบสารสนเทศมาใช้งาน: โอกาสใหม่กับเทคโนโลยี
ระบบสารสนเทศทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ ทั้งระดับบุคคลและระดับองค์กรซึ่งในขณะเดียวกันก็สร้างปัญหาใหม่ขึ้นสำหรับ ผู้บริหารด้วย สำหรับความท้าทายของระบบสารสนเทศในแง่ของผู้บริหาร มีดังนี้
1. ความท้าทายในแนวทางการบริหารธุรกิจ : การนำสารสนเทศเข้ามาใช้ในการบริหารองค์กรให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน และมีประสิทธิภาพ
2. ความท้าทายในยุคโลกาภิวัฒน์ : องค์กรมีความเข้าใจในวิธีการดำเนินธุรกิจและความต้องการสำหรับสิ่งแวดล้อมใน ระบบเศรษฐกิจโลกอย่างไร
3. ความท้าทายในด้านโครงสร้างระบบสารสนเทศ : องค์กรจะมีวิธีการอย่างไรในการพัฒนาโครงสร้างระบบสารสนเทศสำหรับโครงข่าย ข่าวสารภายในซึ่งจะต้องสนับสนุนวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ
4. ความ ท้าทายในการลงทุนด้านระบบสารสนเทศ : องค์กรจะมีวิธีการอย่างไรในการประเมินค่าในเชิงธุรกิจของระบบสารสนเทศที่ได้ ลงทุนสร้างขึ้นมาใช้งาน
5. ความทาทายในด้านความรับผิดชอบและการควบคุม : องค์กรจะสร้างระบบสารสนเทศขึ้นมาอย่างไรเพื่อให้บุคคลกรสามารถควบคุมและเข้า ใจระบบได้อย่าง